'Shall' และ 'Must' เป็นคำสองคำที่แตกต่างกันในภาษาอังกฤษและมีความหมายคล้ายกันในพจนานุกรมภาษาอังกฤษ ทั้งสองคำนี้หมายความว่าบางสิ่งบางอย่างควรจะเป็นหรือบังคับให้เป็นหน้าที่
แม้ว่าทั้งสองจะมีความหมายคล้ายกัน แต่บางครั้งก็ไม่สามารถใช้แทนกันได้
ประเด็นที่สำคัญ
- จะต้องระบุถึงข้อกำหนดหรือข้อผูกพันทางกฎหมาย ในขณะที่ต้องใช้เพื่อแสดงความจำเป็นหรือข้อเสนอแนะที่หนักแน่น
- จะต้องใช้ในเอกสารทางกฎหมายหรือทางการเพื่อระบุการดำเนินการบังคับ ในทางตรงกันข้าม จะต้องใช้ในบริบททั่วไปเพื่อสื่อถึงความรู้สึกเร่งด่วนหรือความสำคัญ
- การใช้ Shall Apply vs Must ขึ้นอยู่กับบริบทและระดับของความเป็นทางการ โดยจะต้องแพร่หลายมากขึ้นในการพูดและการเขียนในชีวิตประจำวัน
จะ vs ต้อง
ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง”จะต้อง' และ 'must' คือคำกริยา 'shall' เป็นคำกริยาช่วย ในขณะที่ 'must' เป็นบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความแน่นอน ซึ่งบ่งชี้ว่าบุคคลนั้นมั่นใจว่าหัวข้อนั้นจะต้องดำเนินการตามภาคแสดง
คำว่า 'shall' ใช้เมื่อประโยคต้องการสื่อถึงบางสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มันใช้แทนคำว่า will คำนี้ใช้เพื่อขอเสนอบางสิ่งบางอย่างหรือขอข้อมูลหรือคำแนะนำ คำนี้ยังใช้เพื่อระบุว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น
คำว่า 'ต้อง' เน้นประโยคที่ประสงค์จะสื่อถึงบางสิ่งบางอย่างที่ต้องแน่นอนหรือได้รับคำสั่งให้ทำในเวลาที่กำหนด คำนี้แสดงว่าการกระทำจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน 'Must' เป็นคำพื้นฐานและตรงไปตรงมาที่สุดในการบอกว่าบางสิ่งเป็นสิ่งที่บังคับหรือบังคับ หมายความว่าคุณไม่มีทางเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำอะไรบางอย่าง สามารถใช้ในรูปแบบปัจจุบันเพื่ออธิบายภาระผูกพันหรือรูปแบบในอนาคตสำหรับข้อผูกพันในอนาคตเท่านั้น
ตารางเปรียบเทียบ
พารามิเตอร์ของการเปรียบเทียบ | จะต้อง | ต้อง |
---|---|---|
รากศัพท์ของคำ | พบในรูปแบบภาษาอังกฤษแบบเก่า มีการใช้อย่างถูกต้องตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 และต่อมาได้กลายเป็นคำที่ใช้แทนคำว่า 'พินัยกรรม' | พบในภาษาอังกฤษโบราณและใช้อย่างถูกต้องก่อนศตวรรษที่ 12 |
แบบฟอร์มไวยากรณ์ | คำนี้เป็นคำกริยาช่วยแทนที่สรรพนามบุรุษที่หนึ่ง สอง และที่สาม เป็นประโยคที่นำไปสู่กาลอนาคต | คำนี้เป็นกริยาช่วยกิริยา ยืนยัน + แบบฟอร์ม ต้องมาก่อนในวลีกริยา (หลังประธานและก่อนกริยาที่สอง) |
จุดมุ่งหมาย | โดยทั่วไปคำนี้ใช้เพื่อแสดงความคิดและกฎเกณฑ์และเมื่อวิทยากรต้องการสื่อถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต | คำนี้ใช้เพื่อเน้นความต้องการข้อกำหนดเฉพาะในประโยคที่ต้องทำ บางครั้งก็ใช้ในอดีตกาลด้วย |
ตัวอย่าง | “คุณจะต้องไปเตะบอลกับผู้ชายคนนี้” | “ฉันต้องซื้อรองเท้าแตะใหม่” |
Tense และรูปแบบการเขียน | มันแสดงออกถึงอนาคต มักใช้ในการสื่อสารที่เป็นทางการ | มันสามารถแสดงปัจจุบันเช่นเดียวกับอดีตกาล ส่วนใหญ่ใช้ในการสื่อสารที่ไม่เป็นทางการ |
แชลคืออะไร?
คำว่า 'shall' เป็นกริยาช่วยที่บ่งบอกถึงความมุ่งมั่น ความปรารถนา หรือความตั้งใจที่จะทำอะไรบางอย่างอย่างแรงกล้า เมื่อใดก็ตามที่คำนี้ถูกเติมลงในประโยค คำนี้จะหมายถึงการเกิดขึ้นในไม่ช้าเสมอ
คำนี้บางครั้งใช้เพื่อออกคำสั่งหรือในขณะที่ให้คำมั่นสัญญากับใครบางคน นอกจากนี้ยังระบุข้อกำหนดเบื้องต้นของบางสิ่งหรือเหตุการณ์
'Shall' ปรากฏในประโยคเป็นสรรพนามบุรุษที่ XNUMX ซึ่งมีแนวทางดั้งเดิมในการเสนอความคิดเห็นในอนาคตกาล ตัวอย่าง-
1. "ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเข้าร่วมงานแต่งงานของลูกพี่ลูกน้องของฉันในสุดสัปดาห์นี้"
2. "ฉันจะตั้งใจเรียนในช่วงวันหยุด Diwali และทำคะแนนสอบให้ดี"
เมื่อจะใช้เป็นบุคคลที่สองหรือสาม จะใช้แทนความคิดเห็น บ่งบอกถึงความรุนแรงของวลีหรือประโยค ตัวอย่าง-
1. 'นักศึกษาจะต้องเข้าร่วมทางออนไลน์ Zoom เจอกันไม่ว่าพวกเขาจะป่วยหรือยุ่งแค่ไหน!'
2. ”คุณจะต้องกล่าวสุนทรพจน์ด้วยความมั่นใจและความหลงใหลอย่างที่สุด!”
คำนี้จะใช้บ่อยที่สุดในการแสดงกฎหมายที่ระบุโดยรูปแบบหรือนิติบุคคล ตัวอย่าง -
1. “รัฐบาลของประเทศของเราจะก้าวหน้าอย่างมากในการพัฒนาเทคโนโลยีในปีต่อๆ ไป เพื่อนำมาซึ่งประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มพูนของเศรษฐกิจของประเทศของเรา”
2. ”คณะกรรมการจะร่วมกันตัดสินใจว่าใครจะเป็น CEO ของบริษัทในอนาคต”
ต้องคืออะไร?
คำว่า 'Must' เป็นคำภาษาอังกฤษที่บ่งบอกถึงความเฉพาะเจาะจงหรือความต้องการของบางสิ่งบางอย่างโดยเฉพาะ
โดยปกติแล้ว เมื่อประโยคต้องหมายถึงบางสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามหรือพลาด จะต้องใช้เป็นคำนาม การใช้ตรรกะ 'ต้อง' ช่วยในการสรุปหรือปิดท้ายข้อความ
คำนี้ใช้กับกริยาอดีต very ซึ่งหมายถึงความเป็นไปได้ในอดีต ตัวอย่าง-
1. ”เธอต้องพบกุญแจแล้ว”
2. "พวกเขาต้องถึงบ้านแล้ว"
คำว่า 'ต้อง' ยังใช้เพื่อให้คำแนะนำอย่างเด่นชัด ตัวอย่าง-
1. ” คุณต้องทำหนึ่งในเครื่องทำสมูทตี้เหล่านี้ พวกเขาเยี่ยมมาก!”
2. ”คุณต้องดูหนังเรื่องนี้ มันยอดเยี่ยมมาก!”
ต้องใช้บางครั้งเพื่อคาดเดา ความจริง ของบางสิ่งบางอย่าง ตัวอย่าง-
1. ”เธอต้องบ้าแน่ๆ!”
2. "ต้องมีข้อผิดพลาดบางอย่าง"
3. ”คุณต้องล้อเล่น!”
'ต้อง' ยังสามารถใช้ในประโยคคำถาม ตัวอย่าง -
1. "ต้องไปเร็วๆ นี้ไหม"
2. “คุณต้องไปดูหนังกับพวกเขาไหม?”
'Must' ใช้กับข้อความเชิงลบเพื่อห้ามไม่ให้ใครทำอะไรบางอย่าง ตัวอย่าง-
1. "ไฟแดงห้ามข้าม"
2. "คุณต้องไม่พูดในสิ่งที่จะทำให้คนอื่นไม่พอใจ"
ความแตกต่างหลักระหว่าง Shall และ Must
- จะหมายถึงข้อกำหนดที่แน่นอน ในขณะที่จะต้องเทียบเท่ากับข้อกำหนดเพียงอย่างเดียว
- Shall นั้นหายากในการสนทนาในชีวิตประจำวัน ในขณะที่ต้องใช้ในการสนทนาทุกวัน
- Shall ใช้ในกาลอนาคต ในขณะที่ จะต้องใช้ในกาลปัจจุบันและอดีตกาล
- Shall เป็นตัวเลือกในการทำบางสิ่ง แต่ 'ต้อง' ไม่มีตัวเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำบางอย่าง
- 'Shall' หมายถึงความไร้น้ำหนักและความเสแสร้ง ในขณะที่ 'must' หมายถึงและดูเป็นธรรมชาติขณะพูด
- https://heinonline.org/hol-cgi-bin/get_pdf.cgi?handle=hein.journals/aklr43§ion=38
- https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fnint.2012.00123/full
อัพเดตล่าสุด : 11 มิถุนายน 2023
Emma Smith สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาภาษาอังกฤษจาก Irvine Valley College เธอเป็นนักข่าวมาตั้งแต่ปี 2002 โดยเขียนบทความเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ กีฬา และกฎหมาย อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับฉันเกี่ยวกับเธอ หน้าไบโอ.
ข้อความนี้ให้ความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่าง 'shall' และ 'must' และการใช้งานในภาษาอังกฤษ ฉันซาบซึ้งที่มันวางรูปแบบไวยากรณ์ วัตถุประสงค์ และการเปรียบเทียบระหว่างคำทั้งสองนี้
ฉันเห็นด้วยกับการอภิปรายโดยละเอียดและตัวอย่างที่ให้ไว้ในข้อความ
ความแตกต่างระหว่าง 'shall' และ 'must' ในข้อความนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาความเข้าใจภาษาอังกฤษ คำแนะนำนี้ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อใดจึงควรใช้แต่ละคำอย่างเหมาะสม
ฉันยอมรับข้อมูลเชิงลึกที่แบ่งปันในข้อความอย่างเต็มที่ เป็นรากฐานที่มั่นคงต่อการใช้งาน
การเน้นที่รูปแบบไวยากรณ์และวัตถุประสงค์ของการใช้ 'shall' และ 'must' เป็นสิ่งที่น่ายกย่อง ไม่เพียงแต่ให้ความรู้เท่านั้น แต่ยังช่วยขัดเกลาความเข้าใจของผู้อ่านเกี่ยวกับภาษาอังกฤษอีกด้วย
แน่นอนว่า การแยกย่อยแง่มุมต่างๆ อย่างพิถีพิถันทำให้เกิดความเข้าใจอย่างครอบคลุมว่า 'จะต้อง' และ 'ต้อง'
การใช้ 'shall' และ 'must' ไม่เคยชัดเจนสำหรับฉันมากไปกว่าหลังจากอ่านข้อความโดยละเอียดนี้แล้ว มันเป็นทั้งการศึกษาและความสมบูรณ์
ฉันเห็นด้วยอย่างยิ่ง ข้อความนี้ให้คำแนะนำที่เหมาะสมซึ่งช่วยปรับปรุงความเข้าใจภาษาอย่างมาก
คำอธิบายของ 'shall' และ 'must' มีความชัดเจนชัดเจนพร้อมตัวอย่างที่ครอบคลุม ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจถึงความแตกต่างและการใช้คำทั้งสองอย่างถูกต้อง
คำอธิบายที่ชัดเจนปูทางไปสู่ความเข้าใจที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเกี่ยวกับ 'จะต้อง' และ 'ต้อง' มันพูดชัดแจ้งอย่างพิถีพิถัน
ฉันเห็นด้วยอย่างยิ่ง ข้อความนี้ไม่มีพื้นที่สำหรับความคลุมเครือและเป็นแนวทางที่ดีเยี่ยมในการเรียนรู้ความซับซ้อนของภาษา
ข้อความนี้ทำหน้าที่เป็นการอธิบายคำว่า 'shall' และ 'must' เป็นพิเศษ ฉันซาบซึ้งอย่างยิ่งกับตัวอย่างในชีวิตจริง ซึ่งช่วยให้เข้าใจและประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้รับได้ง่ายขึ้น
ฉันเห็นด้วยกับคำสรรเสริญของคุณ ข้อความนี้มอบประสบการณ์การเรียนรู้และการอ่านที่ดื่มด่ำแก่ผู้ชื่นชอบภาษา
ข้อความนี้มีข้อมูลครบถ้วนและช่วยปรับปรุงความแม่นยำของภาษา ตารางเปรียบเทียบที่มีคุณลักษณะนี้มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างคำสองคำนี้
ฉันเห็นด้วยกับมุมมองของคุณ เนื้อหาดึงดูดผู้อ่านที่ชื่นชอบการวิเคราะห์โดยละเอียดและคำแนะนำการใช้งาน
คุณลักษณะของตารางเปรียบเทียบช่วยเพิ่มมูลค่าที่สำคัญให้กับเนื้อหา มันช่วยเพิ่มความชัดเจนและความเข้าใจ
คำอธิบายมีความครอบคลุมและจัดระเบียบอย่างดี มันทำให้ฉันเข้าใจมากขึ้นอย่างมากว่าเมื่อใดควรใช้ 'shall' และ 'must' อย่างเหมาะสม
รูปแบบการเขียนและตัวอย่างที่ใช้ทำให้เข้าใจง่ายมาก
ฉันขอขอบคุณตัวอย่างในชีวิตจริงที่ให้ไว้เพื่อแสดงให้เห็นถึงการใช้ 'shall' และ 'must' ที่ถูกต้อง
คำอธิบายที่สำคัญและตัวอย่างในชีวิตจริงช่วยให้ผู้อ่านสามารถแยกแยะวิธีการใช้ 'shall' และ 'must' ในภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อความนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกแบบองค์รวมและช่วยในการนำ "จะต้อง" และ "ต้อง" ไปใช้อย่างถูกต้องตามบริบท
แน่นอนว่าข้อความนี้ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในการอธิบายความแตกต่างและแก้ไขบริบทสำหรับการใช้ 'shall' และ 'must'
ตัวอย่างและบริบทที่ใช้ 'จะ' และ 'ต้อง' ทำให้ประสบการณ์การอ่านมีส่วนร่วมและให้ข้อมูลอย่างมาก
ข้อความนี้ใช้วิธีการเชิงตรรกะเพื่ออธิบายความแตกต่างและการใช้งานที่ถูกต้องของ 'shall' และ 'must'
แน่นอนว่าข้อความนี้ให้ความเข้าใจในเชิงลึกของคำทั้งสองนี้และเพิ่มความเข้าใจในภาษา